ข้าวต้มข้าวกล้อง...อาหารเพื่อสุขภาพ..

              อาหารเพื่อสุขภาพ    วันนี้เป็นเมนูที่ทำได้ง่าย ๆ แต่คุณค่าทางสารอาหารมากมาย คือ “ข้าวต้มข้าวกล้อง”   ซึ่งในข้าวกล้องมีประโยชน์มากมายไม่ว่าจะได้วิตามินบีรวมช่วยป้องกันและบรรเทาอาหารอ่อนเพลีย แขน ขาไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อ 
โรคผิวหนังบางชนิด บำรุงสมองทำให้เจริญอาหาร 
 ได้วิตามินบี 1 ซึ่งถ้ากินเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคเหน็บชาได้ 
 ได้วิตามินบี 2 ป้องกันโรคปากนกกระจอก 
 ได้ฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน 
 ได้แคลเซียม ทำให้กระดูกแข็งแรง ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นตะคริว 
 ได้ทองแดง สร้างเมล็ดโลหิต และเฮโมโกลบิน 
 ได้ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง 
 ได้โปรตีน ช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ
 ได้ไขมัน ให้พลังงานแก่ร่างกาย ไขมันในข้าวกล้องเป็นไขมันที่ดี ไม่มีโคเรสเตอรอล 
 ได้ไนอะซิน ช่วยระบบผิวหนังและเส้นประสาท และป้องกันโรคเพลลากรา
(โรคที่เกิดจากการขาดไนอะซิน จะมีอาการท้องเสีย ประสาทไหว โรคผิวหนัง) 
 ได้คาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานแก่ร่างกาย 
 ได้กากอาหาร ข้าวกล้องมีกากอาหารมาก ซึ่งจะทำให้ท้องไม่ผูก 
และช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้อีกด้วย 
 วิตามินและเกลือแร่ต่างๆ ในข้าวกล้องจะช่วยให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ


                 เมื่อเราทราบถึงประโยชน์ของข้าวกล้องกันแล้ว ต่อไปมาเข้าครัวเพื่อลงมือทำกันดีกว่า เริ่มแรกก็ต้องมาดูส่วนผสมกันก่อนเลยนะค่ะ....
                                                                                              ส่วนผสม
ข้าวกล้องหุงสุกแล้ว 1 ถ้วยตวง
น้ำต้มกระดูกไก่ 3-4 ถ้วยตวง
หมูบด 200 กรัม
เห็ดหอมล้างสะอาดแช่น้ำไว้ให้นิ่ม 3-4 ดอก
รากผักชี กระเทียม พริกไทยตำรวมกัน 1 ช้อนชา
ใบตำลึงตามชอบ
ซีอิ้วขาว
พริกไทยป่น


มาเริ่มลงทำกันดีกว่าโดยเริ่มจาก........

1. ใส่น้ำต้มกระดูกไก่ในหม้อ ตั้งไฟให้เดือด ใส่หมูบดโดยวิธีตักหมูบดใส่ทีละช้อนจนหมด พร้อมรากผักชี กระเทียม พริกไทยที่ตำไว้ ต้มให้เดือดต่อไปอีก 2-3 นาที

2. ใส่ข้าวกล้องพร้อมเห็ดหอม (ต้องหั่นเป็นฝอยๆ) ลงต้มในหม้อซุป ใช้ไฟอ่อน เคี่ยวจนเม็ดข้าวเริ่มเปื่อย ใส่ใบตำลึงต้มต่อไปจนสุก ถ้าน้ำข้นไปเติมน้ำได้อีก

3. ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ตักใส่ถ้วยโรยพริกไทยป่นตามชอบ


อาหารเืพื่อสุขภาพ...ยำตะไคร้...


                              สำหรับเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ วันนี้มีชื่อว่า   ยำตะไคร้  ซึ่งในเมนูอาหารเพื่อสุขภาพจานนี้มีส่วนประกอบของพืชผักสมุนไพรที่เด่นๆ คือตะไคร้ ที่มีสรรพคุณทางยา ช่วยขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยให้เจริญอาหาร ส่วนใบชะพลูนั้นมีวิตามิน เกลือแร่ต่าง ๆ มีแคลเซียม และ เบต้าแคโรทีนด้วย เห็นประโยชน์มากมายอย่างนี้แล้วจะช้าอยู่ใย รีบเดินเข้าครัวกันดีกว่า


                






























          
เมื่อเตรียมส่วนผสมกันครบหมดแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนลงมือทำยำตะไคร้ใบชะพลูที่ไม่ยุ่งยากอะไรเลย เพียงแค่นำตะไคร้ซอยละเอียด หอมแดงซอย และพริกขี้หนูซอย มาคลุกเคล้ารวมกัน แล้วก็ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำมะนาว แล้วก็คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกที ชิมรสชาติให้ถูกปาก แต่ให้ออกเปรี้ยวนำสักเล็กน้อย    พร้อมตักใส่จานที่รองไว้ด้วยใบชะพลู แล้วก็นำปลาหมึกแห้งทอด กุ้งแห้งทอด และถั่วลิสงทอด มาโรยหน้าอีกที เป็นอันว่าเสร็จสรรพเรียบร้อยได้กินยำตะไคร้หอมๆ แกล้มกับใบชะพลู เคี้ยวกร้วมทั้งคำรสชาติมันปาก แถมยังดีต่อสุขภาพ เพราะว่าได้กินสมุนไพรหลายอย่างที่มีคุณค่าต่อร่างกาย
    

อาหารชีวจิต..ยำเต้าหู้อ่อน



                        เมนู  อาหารชีวจิต อีกหนึ่งเมนูกับผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากถั่ว  “ยำเต้าหู้อ่อน”  คุณค่าทางโภชนาการมีมากมาย  เหมาะสำหรับทุก ๆ คน วิธีการทำก็ไม่ยุ่งยากอะไร  มาดูส่วนผสมกันก่อนดีกว่าค่ะ....

ส่วนผสม
เต้าหู้ชนิดอ่อน
เนื้อหมูสับ
วุ้นเส้น (แช่น้ำพอนุ่มลวกสุก)
ตะไคร้  หอมแดง  ขิง  ใบมะกรูด  นำมาซอย
พริกขี้หนูซอย
น้ำปลา
น้ำมะนาว
น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บแล้วแต่ชอบ
ใบสะระแหน่สำหรับโรยหน้า

                     มาเริ่มลงมือทำอาหารชีวจิตกันดีกว่า...เริ่มต้นจากการนำหมูสับใส่หม้อ  เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำปลา แล้วยกตั้งไฟคนจนให้เนื้อหมูสุก  พักไว้ให้เย็นก่อน  หลังจากนั้นต้มน้ำเปล่าพอเดือด  ใส่เต้าหู้อ่อนลงไปต้มประมาณ  5  นาที  ตักขึ้นและพักให้สะเด็ดน้ำหั้นเป็นชิ้น  ต่อมาเริ่มทำน้ำยำกันโดยนำน้ำปลา  น้ำมะนาว  น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บ พริกขี้หนูซอยคนให้เข้ากัน  น้ำยำรสชาติเอาตามใจที่เราชอบนะค่ะ  หลังจากนั้นใส่หมูสับ เต้าหู้ วุ้นเส้นที่ลวกสุกไว้  ตามด้วยตะไคร้  หอมแดง  ขิงซอย ใบมะกรูดซอย  และน้ำยำคลุกเคล้าให้เข้ากันแบบเบา ๆ ตักใส่จานโรยหน้าด้วยใบสะระแหน่  แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ  พร้อมเสริฟให้กับทุกคนได้เลยค่ะ.....

อาหารชีวจิต...เต้าหู้สอดไส้หมูสับเจ...



            เมนูอาหารชีวจิต  วันนี้ขอแนะนำเมนู  เต้าหู้สอดไส้หมูสับเจ   เต้าหู้แข็งเป็นผลิตภัณฑ์ของถั่วเหลืองซึ่งมีคุณค่าทางสารอาหารและโภชนาการมากเช่นกัน  ซึ่งเป็นโปรตีนจากพืชที่มีเท่า ๆ กับเนื้อสัตว์  เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์   ประเภทอาหารมังสวิรัติหรืออาหารเจ   เต้าหู้สามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายและไม่ขาดสารอาหารแน่นอน......มาดูถึงส่วนผสมการทำ  อาหารชีวจิต  เมนูนี้กันดีกว่า...

ส่วนผสม
เนื้อหมูเจ   กุ้งเจสับละเอียดพอประมาณ            
รากผักชี   กระเทียม  พริกไทย (โขลกละเอียด)
เต้าหู้แข็งสีขาว  2  แผ่น
ไข่ไก่  2  ฟอง
แป้งข้าวเจ้า
น้ำปูนใส
เกลือป่น
ซีอิ๊วขาว
น้ำตาลทรายแดง
ซอสเห็ดหอม
น้ำมันพืช   น้ำจิ้มบ๊วย  และผักสลัดตามชอบ

          เริ่มลงมือทำกันเลยค่ะ...เริ่มต้นจากการเตรียมไส้โดยผสมเนื้อหมูเจ  กุ้งเจสับละเอียดกับกระเทียม  พริกไทย  รากผักชีที่โขลกไว้   ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว  ซอสเห็ดหอม  ไข่ไก่  1  ฟอง  น้ำตาลทราย  นวดให้เข้ากันพักไว้  5-10  นาที  

2.  นำแป้งข้าวเจ้า  ไข่ไก่ที่เหลือ  เกลือป่น  น้ำปูนใส  คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน  พยายามอย่าให้แป้งเป็นเม็ดนะค่ะ

3.  นำเต้าหู้ขึ้นนึ่ง 5 นาที  พักไว้ให้เย็นหั่นให่ได้ 6 ชิ้น ต่อ 1  แผ่น  ตัดเอาเนื้อเต้าหู้ตรงกลางออก  นำส่วนผสมไส้ที่หมักไว้ใส่ตรงกลาง  ทำเช่นนี้จนเสร็จและพักไว้ก่อน

4.  ใส่น้ำมันพืชในกระทะตั้งไฟกลางพอร้อน   นำเต้าหู้ชุปแป้งที่เตรียมไว้ลงทอดให้มีสีเหลืองทอง

5.  จัดเต้าหู้ทอดและผักสลัดใส่จานให้สวยงาม  เสริฟ์พร้อมกับน้ำจิ้มบ๊วย  แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ....

                  

ปลาทับทิมทอดสมุนไพร..อาหารเพื่อสุขภาพ



                          สำหรับเมนูอาหารเพื่อสุขภาพวันนี้ที่อยากจะแนะนำกัน คือ  “ปลาทับทิมทอดสมุนไพร”  อาหารเพื่อสุขภาพสำหรับทุกคนในครอบครัว  ทำกันง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากอะไรแต่สิ่งที่ได้รับช่างมีคุณค่าและประโยชน์มากมาย  เรามาดูส่วนผสมในการทำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพจานนี้กันดีกว่า....

ปลาทับทิม                               1  ตัว
มะนาว   ขิง  มะม่วงดิบ  นำมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ
ตะไคร้ซอยฝอยแช่ในน้ำมะนาว
พริกขี้หนูซอย
ใบมะกรูดหั่นฝอย
ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบ
เกลือป่น
น้ำมันพืช

ส่วนผสมน้ำยำ
น้ำพริกเผา                               1  ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก                       2  ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปิ๊บ                                2  ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา                                     2  ช้อนโต๊ะ

                  เมื่อเตรียมส่วนผสมต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วมาลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะ  เริ่มจากขอดเกล็ดปลาควักไส้ออกล้างให้สะอาดพักให้สะเด็ดน้ำบั้งปลาและทาเกลือป่นให้ทั่วตัว

2.  ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อนจัด  ใส่ปลาทับทิมลงไปทอดให้เหลืองกรอบทั้ง 2 ด้าน  ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน

3.  ผสมส่วนผสมน้ำยำทั้งหมดเข้าด้วยกัน  นำไปเคี่ยวให้ข้นพักไว้ให้เย็น

4.  นำส่วนผสมทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นมะนาว  ตะไคร้  พริกขี้หนู  ขิง  มะม่วง  หอมแดง  และเมล็ดมะม่วงหิมพานต์คลุกเคล้าให้เข้ากัน

5.  นำปลาทับทิมที่ทอดไว้ใส่จาน  ราดด้วยน้ำยำให้ทั่ว  โรยด้วยส่วนผสมที่คลุกเคล้าไว้  นำใบมะกรูด  ผักชีฝรั่งและใบสะระแหน่  ตกแต่งให้สวยงาม  แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมเสริฟได้เลยค่ะ...

ทำอย่างไรให้สุขภาพ....สมองดีกันดีกว่า...


            ทำอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรง  ในวันนี้เรามีเคล็ดลับการมีสมองดีทําอย่างไรมาฝากกันค่ะ การมีสมองที่ดีก็เท่ากับชีวิตนี้เราไม่ต้องการอะไรอีกแล้วเพราะคนเราทุกคนไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องใช้สมองเป็นอย่างแรก แต่การที่จะทำให้สมองเราดีอยู่ตลอดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและสำหรับใครหลาย ๆ คนที่ชอบตั้งคำถามว่า สมองดีทําอย่างไร? วันนี้เราก็เลยนำเอาคำตอบของคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยกับเรื่องที่ว่า สมองดีทําอย่างไร? มาบอกกันค่ะ การมีสมองที่ดีไม่ใช่เรื่องยุ่งอยากและไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอะไรเลย วันนี้ 5 วิธีช่วยให้สมองดีของเราในวันนี้จะมาเป็นตัวช่วยที่จะมาล็อคความแข็งแกร่งของสมองให้อยู่คู่กับคุณไปตลอด และเพื่อการมีประสิทธิภาพที่ดีในการทำงานของสมอง ว่าแล้วใครมีคำถาม สมองดีทําอย่างไร? เราก็ไปทำตามเคล็ดลับดี ๆ กับ 5 วิธีช่วยให้สมองดีที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ดีกว่านะค่ะ ถ้าพร้อมเราก็ไปฝึกพัฒนาการของสมองที่ดีกันเลยดีกว่าค่ะ

1. ใช้หน่วยความจำให้บ่อย   เริ่มจากจำเส้นทางเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อน ๆ หรือญาติ แทนการเปิดหาจากสมุด รวมถึงเรียนรู้คำศัพท์ภาษาต่างประเทศทุกสัปดาห์ จากนั้นลองท่องในสิ่งที่จำนั้นออกมาเท่านี้ก็สามารถประเมินศักยภาพสมองได้ในเบื้องต้น

2. สนทนาและหมั่นคิดวิเคราะห์     เนื่องจากการพูดคุยและร่วมแสดงความเห็นในประเด็นต่าง ๆ จะกระตุ้นกระบวนการคิด นอกจากนั้นการอ่านหนังสือพิมพ์ติดตามข่าวสารหรือดูรายการที่ให้ความรู้แล้ววิเคราะห์ตามก็จัดเป็นอาหารดีสำหรับสมองเช่นกัน

3. ลับสมองด้วยงานอดิเรกและปริศนาปัญหา   อย่างในวันว่างกับงานศิลปะ เช่น วาดภาพ วาดการ์ตูน ออกแบบเสื้อผ้า นอกจากกระตุ้นการฝึกคิดแล้วยังช่วยพัฒนาอารมณ์ด้วย รวมถึงปัญหาต่าง ๆ ระหว่างวัน เพียงคิดบวก พยายามแก้ไขหาทางออกก็ถือเป็นความท้าทายของสมองรูปแบบหนึ่ง ดังนั้นไม่ต้องกลัวปัญหา

4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ   นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ในต่างประเทศพบว่า การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นให้สารเอ็นดอร์ฟินในสมองถูกปล่อย ทำให้สดชื่น ลดเครียด พร้อมเริ่มต้นเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

5. พักผ่อนให้พอเหมาะ   โดยไม่นอนน้อย หรือมากจนเกินไป นอกจากนี้ การทำสมาธิ ยังเปรียบเหมือนยาชูกำลัง และยารักษาโรคที่ดีสำหรับจิตใจด้วย ทั้งยังส่งผลต่อสมองพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่

ทำอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรง...กับผักผลไม้ล้างพิษ



         มักมีคนกล่าวไว้ว่าอาหารเป็นยาที่วิเศษสุดหากได้ทราบว่าอาหารประเภทใดสามารถช่วยล้างพิษได้ คุณอาจจะต้องประหลาดใจเพราะอาหารเหล่านั้นอาจเป็นอาหารโปรดที่เรากินกันเป็นปกติอยู่แล้ว บางอย่างก็หาได้ง่าย แถมราคาไม่แพงด้วย อาหารเหล่านี้ช่วยล้างพิษให้ แก่อวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น ตับ ลำไส้ ไต ผิวหนัง ช่วยป้องกันการจับตัวของสารพิษ รวมถึงช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งสารพิษต่างๆ ที่สะสมอยู่ในร่างกาย อาจมาจากควันพิษในอากาศ สารเจือปนในอาหาร เช่น สีผสมอาหาร สารกันเสีย ยาฆ่าแมลง ปรุงรส เป็นต้น คราวนี้ลองมาดูกันว่าอาหารชนิดใดสามารถช่วยล้างพิษให้คุณได้บ้าง

      
                    

1. กล้วย มีคุณสมบัติในการบำรุงและสร้างความแข็งแรง แก่กระเพาะอาหาร ในขณะเดียวกันก็ให้เกลือแร่ที่จำเป็นแก่ร่างกาย เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมช่วยควบคุมระดับของเหลวในร่างกายโดยช่วยขับของเหลว หรือสารพิษส่วนเกิออกจากร่างกายโดยช่วยขับของเปลว หรือสารพิษส่วนเกินออกจากร่างกายได้ดีขึ้น การกินกล้วยเป็นประจำยังช่วยป้องกันท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติอีกด้วย

2. อัลมอนด์    เป็น ถั่วที่มีใยอาหารสูง มีแคลเซียมและโปรตีนที่ดีต่อร่างกาย แม้จะมีไขมัน แต่ก็เป็นไขมันที่ดีและจำเป็นต่อร่างกาย ในระหว่างที่เราทำการล้างพิษจึง ควรกินอัลมอนด์ นอกจากนี้อัลมอนด์ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็จะเกิดอาการไฮเปอร์ไกลซีเมีย ( Hyperglycemia ) ทำให้รู้สึกหิวน้ำมากกว่าปกติ หายใจไม่ออก ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และหากน้ำตาลในเลือดต่ำที่เรียกว่า ไฮโปไกลซีเมีย( Hypoglycemia ) จะทำให้เกิดอาการหน้ามืด เป็นลม ใจสั่น ไม่มีแรง คิดอะไรไม่ออก

3. แอปเปิล  ประกอบไปด้วยเพกตินสูง เพกตินเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่ง ที่ช่วยจับคอเลสเตอรอล และโลหะหนักในร่างกายที่ปะปนมากับอาหาร เช่น ปรอท ตะกั่ว ซึ่งทำลายเซลล์สมอง นี่คือเหตุผลที่เราควรจะกินแอปเบิลเพื่อล้างสารพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส จากการศึกษาทดลอง ยังพบว่าแอปเปิลช่วยขับสารเคมี ที่ปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้ในเด็ก และทำให้เกิดไมเกรนในผู้ใหญ่ได้

4. ตำลึง   ผักใบเขียวที่ขึ้นข้างรั้ว หาง่าย และราคาไม่แพงนี้ ในสมัยก่อนเรามักนำมาทำแกงจืดตำลึงโดยใสเนื้อสัตว์น้อยๆ แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าแกงจืดตำลึงจะมีตำลึงอยู่ไม่กี่ใบ และมีหมูสับเต็มไปหมด ซึ่งตำลึงมีคุณสมบัติ ช่วยผลิตน้ำดีที่จ ะทำให้ลำไส้ขับสารพิษออกจากร่างกาย ได้ดีขึ้น นอกจากนี้สารที่มีอยู่ในตำลึง ยังช่วยให้ตับสลายไขมันในร่างกายด้วย

5. อะโวคาโด   อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ปัจจุบันเราก็สามารถหาซื้ออะโวคาโดได้ จากตลาดทั่วไป ในอะโวคาโดมีสารกลูตาไทโอน( Glutathione ) ที่สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ทั้งช่วยจับสารพิษที่เป็นตัวก่อให้เกิดมะเร็งกว่า 30 ชนิด และขณะเดียวกันก็ช่วยให้ตับ กำจัดของเสียจำพวกสารเคมีและโลหะหนัก ซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ( University of Michigan ) พบว่าผู้สูงอายุซึ่งกินอาหาร ที่มีสารกลูตาไทโอนสูง จะมีสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ ได้กิน และมีอัตราการเกิดโรคหัวใจ น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์





รู้เท่าทันสุขภาพกับมะเร็ง 14 ชนิด


               วันนี้ รู้เท่าทันสุขภาพ  ขอพูดถึงเรื่อง โรคมะเร็ง  ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเพิ่มมากขึ้น  ดังนั้นเราควรรู้ถึงอาการเบื้องต้นการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อป้องกันไว้ก่อนที่จะสายเกินไป.
1.        มะเร็งปากมดลูก
อาการจะมีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบประจำเดือนปกติของคุณอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์  หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น  การตรวจโดยขูดเนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรรศน์จะรู้ได้
2.        มะเร็งในมดลูก
อาการจะมีเลือดออกหลังจากการมีเพศสัมพันธ์  หรือบางครั้งมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อง
3.        มะเร็งรังไข่
อาการจะมีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ  หรือมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์  มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้  มีอาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย  น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง
4.        มะเร็งในเม็ดเลือด  (ลูคีเมีย)
อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติ  มักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว  หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ  และมักจะเกิดร่วมกับอาการปวดตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย  บางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง