ทำอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรงกับการถนอมผิวรอบดวงตา


               
                    ทำอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรงกับการถนอมผิวรอบดวงตา  การปล่อยให้ดวงตาต้องเผชิญกับแดดแรงและการนอนไม่เพียงพอล้วนเป็นสาตุที่ทำให้ผิวรอบดวงตาคล้ำบวม  และตามมาด้วยริ้วรอย  การถนอมผิวรอบดวงตาจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สาว ๆ จะมองข้ามไม่ได้เลย  แต่จะถนอมอย่างไรให้ผิวดีจริง  ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้กันดู

               เริ่มจากใส่ใจในการทำความสะอาด  ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางสำหรับดวงตาชนิดอ่อนโอยเท่านั้น  เวลาล้างก็ใช้สำลีชุบผลิตภัณฑ์ให้ชุ่มแล้ววางไว้บนเปลือกตาก่อนประมาณ  15-30  วินาที  เพื่อให้เครื่องสำอางอ่อนตัวและลอยตัว  จากนั้นจึงเช็ดออกอย่างเบามือ  อย่าถูขยี้แรง ๆ เพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยได้  ส่วนการบำรุงผิวรอบดวงตาให้เลือกชนิดที่เหมาะกับปัญหาที่เป็น  เช่นแก้ตาคล้ำ  ลดริ้วรอย  หรือลดรอยบวม  เวลาทาให้ใช้นิ้วนางทาโดยการแตะเบา ๆ จากหางตาไปหัวตา  ส่วนเปลือกตาบนให้ทาจากหัวตาไปหางตา  และไม่ต้องทาให้ชิดขอบตามากกนัก

               ใครที่ตาบวมเพราะการอดนอนให้นอนหนุนหมอนสูง ๆ จะช่วยลดอาการบวมได้  หรือใช้เจลสำหรับทารอบดวงตาที่แช่เย็น ๆ มาพอกทิ้งไว้ใต้ตาปิดทับด้วยสำลีแผ่นชุบน้ำเย็นทิ้งไว้สัก 5 นาทีก็ช่วยได้ค่ะ  แต่ถ้ามีปัญหาริ้วรอยที่หางตาเพราะแสงแดด  วิธีป้องกันที่ดีคือการใส่แว่นกันแดด....

รู้เท่าทันสุขภาพกับมื้ออาหารเพื่อสุขภาพสมอง

ทำอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรงกับการออกกำลังกาย




                       ทำอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรงกับการออกกำลังกายซึ่งคนทุกเพศ ทุกวัย  ควรจะที่ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ  ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการออกกำลังกาย  ไม่ว่าจะมีอายุเท่าใด  แต่ถ้ายิ่งเริ่มต้นเร็วจะยิ่งดี   ถ้าเป็นผู้สูงอายุควรใช้การเดิน  ว่ายน้ำ ถีบจักรยานอยู่กับที่เป็นหลัก  ผู้ที่อ้วนอาจใช้การว่ายน้ำเป็นหลัก ร่วมกับการควบคุมการกินอาหาร  การเดินหรือถีบจักรยาน  ผู้ที่เข่าเจ็บอาจใช้การว่ายน้ำหรือถีบจักรยานเป็นการออกกำลังกาย ฯลฯ

วิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องมี  5 ขั้นตอน
1. ควรจะมียืดเส้นสายก่อน
2.  ควรจะมีการอุ่นเครื่อง  ประมาณ  5  นาที
3.  ออกกำลังกายให้ชีพจรเข้าเป้าประมาณ  20  นาที
4.  ควรมีคลายความร้อน ประมาณ  5  นาที
5.  ควรมีการยืดเส้นอีกครั้งก่อนหยุด


               ควรออกกำลังกายนานแค่ไหน  ปกติแล้วควรออกกำลังกายต่อเนื่องประมาณ  20  นาทีเป็นอย่างน้อย  แต่ถ้าเดินต้องเดินเร็ว ๆ ประมาณ  40  นาที  การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพไม่จำเป็นต้องทำมากกว่านี้ แต่ควรออกกำลังกายสัปดาห์ละ  3  ครั้ง  แต่ไม่ควรออกมากกว่า  6  ครั้ง  เพื่อให้ 1  วันเป็นวันพัก  ในการออกกำลังกายแต่ละครั้ง  ถ้าจะให้ได้ประโยชน์ต่อหัวใจและปอด  จะต้องออกกำลังกายให้หัวใจหรือชีพจร  เต้นระหว่าง  60-80 เปอร์เซ็นต์  ของความสามารถสูงสุด  ที่หัวใจของคนเราจะเต้นได้  สูตรในการคำนวณความาสามารถสูงสุดที่หัวใจจะเต้นได้คือ  220  ลบอายุเป็นปี  กล่าวคือคนที่มีอายุ  50  ปี  มีความสามารถสูงสุดที่หัวใจจะเต้นได้คือ  220  ลบ 50  หรือเท่ากับ  170  ครั้งต่อนาที  แต่ในการออกกำลังกายที่เป็นประโยชน์ต่อหัวใจและปอดไม่จำเป็น  และไม่ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องออกกำลังกายให้ชีพจรเต้นถึง 170  ครั้ง  แต่ควรออกกำลังกายเพื่อให้ชีพจรเต้นเพียงระหว่าง 60-80 เปอร์เซ็นต์ของ 170 ครั้งต่อนาที สำหรับคนที่อายุ 50 ปี  แต่ถ้าไม่เคยออกกำลังกายต้องค่อย ๆ ทำอาจใช้เวลา 2-3 เดือนก่อน  ที่จะออกกำลังกายให้ชีพจรเต้นได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์  ของความสามารถสูงสดที่หัวใจจะเต้นได้  ซึ่งการออกกำลังกายสามารถสะสมได้ เช่น  ถ้าออกครั้งละ 10 นาที  อย่างต่อเนื่องวันละ 3  ครั้ง  ก็จะได้ประโยชน์เช่นกัน  รู้แบบนี้หันมาออกกำลังกายกันดีกว่าเพื่อสุขภาพของเราเอง.....

รู้เท่าทันสุขภาพกับอาหารแก้ไข้หวัด...

                 อาหารไทย อาหารเพื่อสุขภาพ ไม่เพียงให้ความอร่อย ยังแก้หวัดได้ มีหลายๆ คนเป็นหวัดเรื้อรัง จึงมีคำถามมาว่ากินอาหารประเภทไหนดีจึงจะต้านหวัดได้และทำให้บรรเทาการเจ็บ คอไอและมีน้ำมูก
              หลายๆ คนบอกว่ากินส้มมากๆ จะช่วยให้หายหวัด เพราะส้มมีวิตามินซี แต่ความจริงแล้วอาหารที่มีวิตามินซีต้องกินทุกๆ วัน จะป้องกันการเป็นหวัดได้ แต่ถ้าเป็นแล้ววิตามินซีช่วยน้อยมาก แต่ถ้าเรากินอาหารครบห้าหมุ่ และกินผลไม้และผักที่มีวิตามินซีสูงเป็นประจำ โอกาสที่จะเป็นหวัดน้อยกว่าคนที่ไม่ชอบกินผลไม้และผักที่มีวิตามินซี
               ถ้า จะสรุปง่ายๆ ก็พูดได้ว่าวิตามินซีป้องกันหวัดได้ ถ้ารู้ตัวว่าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ติดหวัด เป็นหวัดง่าย ก็ต้องกินผักและผลไม้ให้วิตามินซีมากๆ เช่น ส้ม มะละกอสุก มะม่วง ฝรั่ง สับปะรด ส้มโอ ชมพู่ พุทรา มะขาม แตงโม ฯลฯ

อาหารชีวจิต..ผัดเปรี้ยวหวานเต้าหู้



                           เมนูอาหารชีวจิต  วันนี้เรามีเมนูอาหารสุขภาพที่มาแนะนำกันนะค่ะกับ   ผัดเปรี้ยวหวานเต้าหู้   ซึ่งหลาย ๆ คนคงจะชอบอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วก็มาลงมือทำกันได้เลยคะ

ส่วนผสม
1. หอมใหญ่จำนวน ½ หัว
2. มะเขือเทศจำนวน 1 ลูก
3. กระเทียมสับจำนวน 3 กลีบ
4. แตงกวาจำนวน 2 ลูก
5. สับปะรดจำนวน 100 กรัม
6. ต้นหอมจำนวน 2 ต้น
7  เต้าหู้แผ่นจำนวน ½ แผ่น

8. ซอสมะเขือเทศ
9. พริกไทย
10. น้ำตาลทรายแดง
11. ซอสญี่ปุ่น จำนวน 2 ช้อนชา


วิธีทำ....
- เริ่มจากขั้นตอนแรก ให้ใส่น้ำมันลงไปในกระทะ หลังจากนั้นก็ให้ผัดกระเทียม และก็หัวหอมลงไปผัดด้วย หลังจากนั้นก็ให้ใส่เต้าหู้ นำลงไปผัดให้พอเหลืองคะ
- หลังจากนั้นก็ให้ใส่สับปะรด และก็ใส่แตงกวา และก็ให้ใส่หอมใหญ่ และก็ให้ใส่มะเขือเทศ ลงไปคะ
- หลังจากนั้นก็ให้ผัด จนกว่าจะใกล้สุก และก็ให้ทำการปรุงรส โดยใส่เครื่องปรุง ซึ่งได้เตรียมไว้แล้วลงไปคะ
- และพอมันสุกแล้ว ก็ให้ใส่ต้นหอมลงไป เพียงแค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วคะ สามารถตักเสิร์ฟได้เลยคะ
เห็นไหมคะว่าเมนูนี้แสนจะง่ายซะเหลือเกิน สำหรับคนที่ชอบทานผัก เพราะว่าในผักที่เรานำมาทำเป็นเมนูในวันนี้นั้น ก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์สำหรับสุขภาพของเราทั้งนั้น และก็ยังช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดีด้วย สำหรับใครที่ต้องการจะลดน้ำหนักในขณะนี้ ก็สามารถที่จะนำเมนูนี้ไปทำทานได้เลยคะ

ทำอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรง..กับสุขภาพจิตที่ดี...



                หากสุขภาพร่างกายของคุณสมบูรณ์แข็งแรง แต่คุณยังรู้สึกว่าไม่ค่อยมีความสุขนัก นั่นอาจหมายถึงคุณต้องหันมาใส่ใจกับสุขภาพจิตให้มากขึ้น มันเป็นเรื่องง่ายมากในการพัฒนาสุขภาพจิตของคุณเอง และการอ่านบทความนี้ก็นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลง จงจำไว้ว่า ทุกสิ่งเริ่มต้นจากภายในสู่ภายนอกเสมอ    และต่อไปนี้คือขั้นตอนในการพัฒนาสุขภาพจิตของตัวคุณเองให้ดีขึ้น
  
    1. พยายามหางานอดิเรกหรือสิ่งที่คุณหลงใหลให้เจอ เพื่อที่คุณจะได้มีโอกาสผ่อนคลายและสร้างความสนุกสนานให้กับตัวเองบ้าง ในเมื่อร่างกายต้องการการออกกำลังกาย และปลดปล่อยพลังงานออกมาใช้บ้างในบางครั้ง ดังนั้นจิตใจก็ต้องการความรู้สึกที่ได้ปลดปล่อยเช่นกัน
  
    2.รักร่างกายของคุณเองและอย่าลืมให้อาหารจิตใจด้วยการพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้อื่นในสังคม และเปิดรับความรัก ความอบอุ่นจากผู้คนที่ใกล้ชิดกับคุณ
    3.พยายามนำมิตรภาพเก่าๆ กลับมาอีกครั้ง หรือสร้างมิตรภาพใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการทางจิตใจของคุณเอง การได้รับการสนับสนุนและกำลังใจที่ดีจากครอบครัวและเพื่อนฝูงเป็นสิ่งสำคัญมาก
  
    4.สร้างความท้าทายให้ตัวเองบ้างเป็นบางครั้ง ด้วยการหางานที่มีความหมายและความสำคัญกับคุณ เพื่อให้คุณมีความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองและมีความมั่นใจ อาชีพที่ควรทำคืออาชีพที่กระตุ้นให้คุณรู้สึกตื่นเต้นในตอนเช้า รู้สึกกระปรี้กระเปร่าที่จะได้เริ่มต้นทำงานในวันใหม่ นั่นคือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม หากงานของคุณไม่ใช่สิ่งที่คุณชอบที่สุดหรือเป็นงานในฝัน แม้แต่การได้งานที่คุณไม่ชอบ คุณก็ยังสามารถจัดการกับมันได้ ในงานทุกประเภทคุณสามารถหาสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกได้รับความเคารพและชื่นชม ด้วยการทำให้ดีที่สุด และเป็นมิตรกับเพื่อนร่วมงานและมอบความอบอุ่นให้คนที่อยู่รอบๆ ตัวคุณ เรียนรู้ที่จะรักตัวเองก่อน เพราะความรู้สึกพึงพอใจในหน้าที่การงานจะต้องมาจากตัวคุณเองไม่ใช่ผู้อื่น
    

พล่าหอยนางรม..อาหารเพื่อสุขภาพ



ส่วนผสม...
หอยนางรมสด   5  ตัว
น้ำพริกเผาพอประมาณ
น้ำมะนาว   ¼  ถ้วยตวง
น้ำปลา  2  ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย  1  ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูซอย  1  ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย  3  หัว
ใบมะกรูดซอย  2  ใบ
ใบสะระแหน่สำหรับตกแต่ง  

วิธีทำ...เตรียมน้ำยำโดยผสมน้ำมะนาว  น้ำปลา  น้ำตาลทราย น้ำพริกเผา คนให้เข้ากัน  เติมพริกขี้หนู  หลังจากนั้นเตรียมจัดหอยนางรมใส่จานราดด้วยส่วนผสมน้ำยำที่เตรียมไว้  โรยหอมแดง  ใบมะกรูด  ตะไคร้  และใบสะระแหน่จัดเสิร์ฟทันที...

ขอร่วมไว้อาลัยแด่.. “ดร.สาทิส อินทรกำแหง”



         ขอร่วมไว้อาลัยแด่การจากไปของ  ดร.สาทิส อินทรกำแหงผู้เชี่ยวชาญและบุกเบิกด้านชีวจิต เสียชีวิตแล้วในวัย 86 ปี ด้วยโรคหลอดเลือดในสมองตีบเฉียบพลัน พระราชทานเพลิงศพ ณ วัดสระเกศ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา
      
       วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.สาทิส อินทรกำแหง ผู้เชี่ยวชาญด้านชีวจิตและด้านธรรมชาติบำบัดคนแรก ได้เสียชีวิตแล้ว ในวัย 86 ปี ด้วยโรคหลอดเลือดในสมองตีบเฉียบพลัน เมื่อเวลา 12.26 น.ของวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากประสบอุบัติเหตุล้มและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ พิธีสวดอภิธรรมศพจะจัดที่วัดสระเกศ ศาลาใหญ่ จนถึงวันที่ 2 พ.ย.และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 3 พ.ย.เวลา 16.00 น.
      
       สำหรับประวัติ ดร.สาทิส อินทรกำแหง เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2469 ที่อำเภอบางรัก จังหวัดพระนคร เป็นบุตรของพันเอก พระศรีพิชัยบริบูรณ์ (เหมือน อินทรกำแหง) อดีตเจ้ากรมมณฑลทหารบกที่ 3 และ คุณแม่เชย อินทรกำแหง ข้าหลวงในราชสำนัก สมรสกับ นางฉินโฉม ภรรยาชาวสิงคโปร์ มีบุตร-ธิดา 2 คน คือ ปิยะ และ ภาสินี จบการศึกษาด้านจิตวิทยามวลชน โภชนาการ ชีวโมเลกุล แมคโครไบโอติกส์ การฝังเข็ม และการแพทย์ทางเลือก เคยทำงานที่โรงพยาบาล Sacred Heart Hospital รัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเซียะเหมิน ประเทศจีน และทำงานให้องค์การสหประชาชาติ
      
       ทั้งนี้ ภายหลังบิดาเกษียณอายุราชการ ได้อพยพครอบครัวกลับสู่ภูมิลำเนาเดิมที่จังหวัดนครราชสีมา ที่กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติและภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนโบราณ โดยทำหน้าที่เป็นลูกมือของบิดา ซึ่งมีความรู้ด้านยาแผนโบราณ ด้วยการเข้าป่าเก็บพืชสมุนไพรแล้วนำมาเคี่ยว บด และ ปั้นยา ควบคู่กับการเป็นลูกมือของมารดา ซึ่งมีความรู้เรื่องยาพื้นบ้านและการนวดแผนไทย ซึ่งนอกจากเพื่อบำบัดรักษาอาการป่วยไข้ของสมาชิกในครอบครัวแล้ว ยังเพื่อสาธารณกุศลแด่พระสงฆ์ที่อาพาธ และชาวบ้านในละแวกเดียวกันที่เจ็บไข้ได้ป่วยด้วย
      
       นอกจากนี้ ดร.สาทิส ยังเป็นนักเขียน บรรณาธิการหนังสือ กระดึงทองและ สยามสมัยรวมทั้งเขียนบทความวิจารณ์ดนตรีคลาสสิก โดยใช้นามปากกา คีตกร จ.มงคลขจรสาทิสบุกเบิกเส้นทางแนวคิดแบบชีวจิตใน นิตยสารชีวจิตซึ่งมีการตอบรับจากสังคมอย่างกว้างขวาง รวมถึงการเป็นผู้นำด้านการแพทย์แบบผสมผสาน (Integrated และ Alternative Medicine) และการรักษาสุขภาพในแนวธรรมชาติ มาแนะนำใช้ในประเทศไทย จนได้รับการเชิดชูเกียรติ รางวัลนราธิป ประจำปี พ.ศ.2549
      
       สำหรับผลงานที่สร้างชื่อเสียงจำนวนมากในฐานะนักเขียนและบรรณาธิการหนังสือ อาทิ ชีวจิต การใช้ชีวิตอย่างเข้าใจธรรมชาติ ชีวิตเริ่มต้นเมื่อ 71 มะเร็งแห่งชีวิต......

ขอขอบคุณข่าวสารจาก....manager.co.th

ยำศรีราชา..อาหารเพื่อสุขภาพ



ยำศรีราชา
ส่วนผสม
สับปะรดศรีราชาหั่นพอคำ  300  กรัม
กุ้งทะเลปอกเปลือกไว้หางลวกสุก  8  ตัว
เนื้ออกไก่ต้มสกุฉีกเป็นเส้นใหญ่ ๆ   100  กรัม
ไข่นกกระทาต้มผ่าครึ่ง  8  ฟอง
กระเทียมจีนหัวใหญ่หั่นแฉลบบาง ๆ  2  ช้อนโต๊ะ
ผักชีสำหรับโรย  1  ต้น
พริกชี้ฟ้าสีแดงซอยสำหรับโรย   ½  เม็ด
หมูหย็องหรือไก่หย็อง  100  กรัม

ส่วนผสมน้ำยำ
น้ำปลา  2  ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาวคั้นสด  2  ช้อนโต๊ะ
น้ำมะกรูด  1  ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย  1 ช้อนโต๊ะ
งาขาวคั่วสุก  1  ช้อนชา
พริกขี้หนูสีแดงสับหยาบ ๆ  8  เม็ด

วิธีทำ....เริ่มต้นด้วยการเตรียมน้ำยำด้วยการนำส่วนผสมทั้งหมดคนให้เข้ากัน  ใส่พริกขี้หนูคนให้ทั่ว  พักไว้ในตู้เย็น
2.  นำสับปะรด  กุ้งทะเลลวกสุก  เนื้ออกไก่  และไข่นกกระทา นำมาจัดเรียงในจานให้สวยงาม
3.  ราดด้วยน้ำยำ  โรยหน้าด้วยผักชี  พริกชี้ฟ้า  กระเทียม  เสิร์ฟคู่กับหมูหย็องหรือไก่หย็อง...แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ...

เต้าหู้อ่อนผัดน้ำพริกเผามิโซะใส่กุ้ง..อาหารเพื่อสุขภาพ



ส่วนผสม...
เต้าหู้ญี่ปุ่นชนิดอ่อน 1  ก้อน  300  กรัม
กุ้งทะเลปอกเปลือกไว้หาง   10  ตัว
น้ำมันพืช   2  ช้อนโต๊ะ
ขิงอ่อนสับละเอียด   1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับละเอียด   1  ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า  ¼  ถ้วยตวง
น้ำพริกเผาสูตรเผ็ด   1  ช้อนโต๊ะ
มิโซะญี่ปุ่น  (ถ้าไม่มีให้ใช้เต้าเจี้ยว)  2  ช้อนชา
น้ำตาลทราย  1 ½  ช้อนชา
ใบกุยช่ายหั่นท่อน  ¼  ถ้วยตวง
เครื่องเคียง  เช่น  ผักสดต่าง ๆ  และน้ำพริกเผา

วิธีทำ  ..เริ่มต้นด้วยการหั่นเต้าอ่อนเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดพอคำใส่ถ้วยพักไว้
2.  ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลาง  ใส่น้ำมันพืชพอร้อน  ใส่กระเทียมผัดให้หอม  ใส่กุ้งลงผัดพอกุ้งเริ่มเปลี่ยนสีใส่น้ำเปล่า  น้ำพริกเผา  มิโซะ  น้ำตาลทราย  ผัดพองวด  ใส่ขิงคนให้เข้ากันแล้วหรี่ไฟอ่อน
3.  ใส่เต้าหู้  ผัดเบา ๆ  ประมาณ  1  นาที  ใส่ใบกุยช่ายผัดให้เข้ากัน  ยกลงตักใส่จานเสิร์ฟขณะร้อน
4.  เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ รับประทานเคียงกับน้ำพริกเผาและผักสด

ยำขนมจีน..กินดีมีมงคล



อาหารเพื่อสุขภาพ วันนี้มีเมนูแนะนำคือ ยำขนมจีน  ซึ่งขนมจีน  โบราณถือว่าเป็นอาหารที่จัดให้เพื่อความเป็นมงคล  มีอายุยืนยาว  เจริญก้าวหน้า  มาดูส่วนผสมการทำกันดีกว่าค่ะ....

ส่วนผสม...
ขนมจีน  ม้วนก้นกลม    5  จับ
หัวปลี  (ลอกเปลือกสีแดงออกให้หมด)   1  หัว
ถั่วพู  5  ฝัก
ผักกระเฉด   10 ยอด
แตงกวา  3  ผล
เนื้อไก่นึ่ง  100  กรัม
ตับหมูนึ่ง  50 กรัม
หนังหมูต้มจนนุ่ม  100  กรัม
ใบสะระแหน่  ต้นหอม 
น้ำมะขามเปียกและน้ำยำ

ส่วนผสมน้ำยำ
น้ำตาลทราย   ½  ถ้วยตวง
น้ำปลา  ¼  ถ้วยตวง
น้ำมะนาว   ¼  ถ้วยตวง
พริกขี้หนูสวน  20  เม็ด
กระเทียมปอกเปลือก  20  กลีบ
ถั่วลิสงคั่วใหม่ป่นหยาบ ๆ  2  ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำยำ...เคี่ยวน้ำตาลทราย  น้ำปลา  น้ำมะนาว  พอข้นยกลง  โขลกพริกขี้หนูสวนและกระเทียมให้ละเอียด  ผสมน้ำที่เคี่ยวไว้คนให้เข้ากันดี  ตักใส่ภาชนะ เมื่อจะคลุกยำจึงใส่ถั่วลิสง

วิธีทำ....
1.   เตรียมจานใบใหญ่พอสมควร  จัดวางขนมจีน
2.   ฝานหัวปลีสดแช่น้ำมะขามเปียกเพื่อไม่ให้ดำ  ถั่วพูซอย  ผักกระเฉดเด็ดยอดสั้น ๆ แตงกวา  ปลอกเปลือกสับหยาบ ๆ
3.    หั่นเนื้อไก่และตับหมูเป็นชิ้นบางโตพอสมควร  หนังหมูหั่นเป็นชิ้น  เด็ดใบสะระแหน่  ต้นหอมซอยฝอย  ทุกอย่างผู้รับประทานจะหยิบจับเองง่าย   ๆ  มาไว้ในจานตนเอง  แล้วตักน้ำยำใส่ถ้วยเล็กโรยถั่วลิสง ไปคลุกเคล้าเอง


ปลากะพงผัดเซเลอรี
ส่วนผสม
ปลากะพงหั่นชิ้น   5-6  ชิ้น
เซเลอรี่  3-4  กิ่ง
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นเฉียง  1 เม็ด
กระเทียมสับ  1  ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช  1  ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช  1  ช้อนโต๊ะ
เต้าซี่  เต้าเจี้ยว  อย่างละ ½  ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย  ½  ช้อนชา
ซี้อิ้วขาว  1  ½  ช้อนชา
น้ำซุป  ¼  ถ้วยตวง
เกลือป่น  พริกไทยป่น
แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ....
1.   โรยเกลือป่น  พริกไทยป่นบนเนื้อปลากะพงคลุกแป้งทอดกรอบสำเร็จรูป  ทอดให้เหลืองจัดใส่จานให้สวยงามเตรียมไว้
2.    ลอกเปลือกเซเลอรี  หั่นเฉียงประมาณ ¾  ถ้วยตวง
3.    ใส่น้ำมันพืชในกระทะ  ใส่กระเทียมลงเจียวให้เหลืองหอม  ใส่เต้าเจี้ยว  เต้าซี่  ปรุงรสด้วยน้ำตาล  ซีอิ้วขาว  เติมน้ำซุปพอเดือด  ใส่เซเลอรีผัดเร็ว ๆ พอสุก  โรยพริกชี้ฟ้าและพริกไทยตักราดลงบนจานที่เตรียมไว้

ปลากะพงผัดเซเลอรี..อาหารเพื่อสุขภาพ



ปลากะพงผัดเซเลอรี

ส่วนผสม
ปลากะพงหั่นชิ้น   5-6  ชิ้น
เซเลอรี่  3-4  กิ่ง
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นเฉียง  1 เม็ด
กระเทียมสับ  1  ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช  1  ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช  1  ช้อนโต๊ะ
เต้าซี่  เต้าเจี้ยว  อย่างละ ½  ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย  ½  ช้อนชา
ซี้อิ้วขาว  1  ½  ช้อนชา
น้ำซุป  ¼  ถ้วยตวง
เกลือป่น  พริกไทยป่น
แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ....
1.   โรยเกลือป่น  พริกไทยป่นบนเนื้อปลากะพงคลุกแป้งทอดกรอบสำเร็จรูป  ทอดให้เหลืองจัดใส่จานให้สวยงามเตรียมไว้
2.    ลอกเปลือกเซเลอรี  หั่นเฉียงประมาณ ¾  ถ้วยตวง
3.    ใส่น้ำมันพืชในกระทะ  ใส่กระเทียมลงเจียวให้เหลืองหอม  ใส่เต้าเจี้ยว  เต้าซี่  ปรุงรสด้วยน้ำตาล  ซีอิ้วขาว  เติมน้ำซุปพอเดือด  ใส่เซเลอรีผัดเร็ว ๆ พอสุก  โรยพริกชี้ฟ้าและพริกไทยตักราดลงบนจานที่เตรียมไว้

กุ้งคั่วพริกเกลือ...อาหารเพื่อสุขภาพ



กุ้งคั่วพริกเกลือ
ส่วนผสม
กุ้งทะเล  350  กรัม
กระเทียมเจียว   2  ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสีเขียว  สีแดงสับ  1  ช้อนโต๊ะ
รากผักชีสับ   2  ช้อนชา
เกลือป่น   ½ ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว  ½  ช้อนชา
พริกไทยป่น  ¼  ช้อนชา
น้ำมันพืช  2  ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับทอด
ผักชีสำหรับตกแต่ง

ส่วนผสมน้ำจิ้ม
พริกขี้หนูสีแดงสับ   1  ½  ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ   1  ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว   3  ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา  2  ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย  1  ช้อนโต๊ะ

                        วิธีทำ....เริ่มต้นด้วยล้างกุ้งให้สะอาดพักให้สะเด็ดน้ำ  ถ้าต้องการให้รสชาติชึมเข้าเนื้อให้ผ่าหลังกุ้ง  หลังจากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน  นำกุ้งลงทอดพอสุกและมีสีแดงสวย  ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน  ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อนอีกครั้งหนึ่ง  ใส่รากผักชีและพริกขี้หนูผัดพอสุกหอม  ใส่กุ้งทอดลงคลุกเคล้าพอเข้ากัน  ปรุงรสด้วเกลือป่น  ซีอิ๊วขาว  และพริกไทยป่น  ใส่กระเทียมเจียวเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง  ตกแต่งด้วยผักชีจัดเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้ม  ส่วนวิธีการทำน้ำจิ้มก็น้ำส่วนผสมทุกอย่างคนให้เข้ากันก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ....

อาหารเพื่อสุขภาพ..ปลากะพงโจรสลัด



ปลากะพงโจรสลัด

ส่วนผสม
ปลากะพง      2  ตัว
ปลาหมึกบั้งหั่นชิ้นลวก  200  กรัม
กุ้งสดปอกเปลือกลวก  200  กรัม
กรรเชียงปูนึ่งสุก  4  ชิ้น
แป้งสาลีอเนกประสงค์  ¼   ถ้วยตวง
เกลือป่นเล็กน้อย  น้ำมันพืชสำหรับทอด 
พริกไทยป่นเล็กน้อย  ไม้จิ้มฟัน
ผักชีลาวสำหรับตกแต่ง

ส่วนผสมน้ำปรุงรส
น้ำมะนาว   ¼  ถ้วยตวง
น้ำปลา  2  ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย   1 ½  ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสีแดงสับ   2  ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ  2  ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ....เริ่มต้นด้วยการแล่ปลากะพงเอาแต่เนื้อ  หมักด้วยเกลือป่นและพริกไทยป่นประมาณ  10  นาที  จึงม้วนให้เป็นก้อนกลม  กลัดด้วยไม้จิ้มฟัน  คลุกลงในแป้งสาลีให้ทั่ว  หลังจากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน  ใส่เนื้อปลาลงทอดจนสุกเหลืองตักขึ้นพักไว้  นำส่วนผสมน้ำปรุงรสผสมให้เข้ากัน  จัดปลากะพงทอด  ปลาหมึก  กุ้ง  และกรรเชียงปู  ใส่ภาชนะให้สวยงาม  ราดด้วยน้ำปรุงรสตกแต่งด้วยผักชีลาว  จัดเสิร์ฟทันที  แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ.....

รู้เท่าทันสุขภาพกับการให้ทารกกินปลาลดเสี่ยงผื่นคัน



                 รู้เท่าทันสุขภาพเกี่ยวกับการให้ทารกกินปลาลดเสี่ยงผื่นคัน  โดยคณะนักวิจัยชาวสวีเดน  เปิดเผยข้อมูลหลังทำการศึกษาพบว่า  การให้ทารกกินปลาวันละ 1  ชิ้น  ในช่วงอายุ  9  เดือนแรก  นับเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก  เพราะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงที่เด็กจะเกิดอาการแพ้ผื่นคันลงได้  1  ใน  4  เมื่อเทียบกับทารกที่ไม่ได้กินปลา  และการให้เด็กกินปลาตั้งแต่เล็กนั้น  สิ่งสำคัญไม่ใช่จำนวนหรือประเภทของปลาที่ให้กิน  แต่อยู่ที่ช่วงเวลาของการเริ่มให้กินมากกว่า 

                โดยอาการแพ้ผื่นคันเป็นโรคเรื้อรัง  มักเกิดขึ้นกับเด็กร้อยละ 10-15  ที่มีแนวโน้มเป็นภูมิแพ้  ทำให้ผิวหนังคัน  แดง  แห้ง  และแตก  ซึ่งผลการศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งของการติดตามศึกษาสุขภาพระยะยาวของทารกเกือบ 17,000  คน  กระทั่งพบว่ายืนคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กแพ้ผื่นคัน  ส่วนการเลี้ยงลูกด้วยนมมารดาและการไม่มีสัตว์เลี้ยงขนยาวในบ้านไม่มีผลแต่อย่างใด  แต่โดยรวมแล้วสรุปได้ว่าปลามีส่วนช่วยลดโอกาสเกิดแพ้ผื่นคันได้  ซึ่งสันนิษฐานว่ามาจากปลาที่มีโอเมก้า 3 และสารอาหารสำคัญอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันของทารกนั่นเอง...

รู้เท่าทันสุขภาพ..กับการกินทุเรียน...


                
                        รู้เท่าทันสุขภาพ  มีวิธีการรับประทานทุเรียนในหน้าร้อนอย่างไรให้ถูกวิธี  ซึ่งแพทย์สาธารณสุข  แนะนำว่าควรกินครั้งละไม่เกิน 2 เม็ดขนาดกลาง  เพราะจะให้พลังงานสูงถึง 187 กิโลแคลอรี  ซึ่งร่างกายจะได้รับไขมัน  โปรตีน  แคลเซียม  ฟอสฟอรัส  เหล็ก และวิตามินเอแบบพอเหมาะ  แต่ถ้ากินมากเกินไปพลังงานจากความหวานของทุเรียนจะเทียบได้กับกินข้าว 5 ทัพพี  หรือกินน้ำอัดลมเกือบ 2 กระป๋อง  หรือก๋วยเตี๋ยวหมู  1  ชาม 

                   โดยคนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน  หัวใจและหลอดเลือดต้องระมัดระวังในการกินทุเรียนมากเป็นพิเศษ  เนื่องจากสารจากทุเรียนจะส่งผลต่อร่างกายได้มากกว่าคนทั่วไป  และที่สำคัญต้องไม่กินทุเรียนร่วมกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์อย่างเด็ดขาด  เพราะในทุเรียนมีสารกำมะถันหรือซัลเฟอร์อยู่จำนวนมาก  และจะละลายได้ดีในแอลกฮอล์  ทำให้แอลกฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว  จนเกิดอาการเมาเร็วและเมาหนักขึ้นตลอดจนก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบหายใจสุ่มเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรือเกิดอาการร้อนใน

                    ส่วนเรื่องความเชื่อที่ว่ากินทุเรียนแล้วให้กินมังคุดตามเพื่อแก้ร้อนในนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี  เพราะแม้จะไม่มีงานวิจัยชินไหนรับรอง  แต่นี่ถือเป็นกุศโลบายของคนรุ่นเก่าที่คิดว่าทุเรียนเป็นของร้อนและมังคุดเป็นของเย็น สามารถแก้ไขได้ทันที.....

รู้เท่าทันสุขภาพ..ดื่มน้ำเย็นจัดมีผลต่อสมอง



                      รู้เท่าทันสุขภาพ  วันนี้ขอพูดถึงข้อควรระวังในการดื่มน้ำเย็นจัดจะมีผลต่อสมอง  ทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยบริสตอล  ประเทศอังกฤษ  เผยว่า  คนที่ดื่มน้ำเย็นจัดในยามร่างกายไม่ได้เกิดความรู้สึกกระหายน้ำ  จะทำให้ขีดความสามารถในการทำงานของสมองลดลงไปทันที  แม้เป็นการดื่มแค่  1  แก้ว  ก็ถือว่ามากพอที่จะทำให้สมรรถภาพทางจิตใจของบางคนลดลงถึง  15 เปอร์เซ็นต์  จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน  60  คน  ซึ่งก่อนการทดสอบอาสาสมัครส่วนหนึ่งที่ไม่ดื่มน้ำอะไรเลย  กับอีกส่วนหนึ่งที่ดื่มน้ำก๊อกแช่เย็นจัดที่อุณหภูมิ  10  องศาเซลเซียส  ในปริมาณ  1  แก้ว  ผลปรากฏว่าคนที่หิวกระหายน้ำก่อนการทดสอบและดื่มน้ำเข้าไป  สามารถทำแบบทดสอบได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มอะไรประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์  ส่วนกลุ่มที่ไม่รู้สึกกระหายน้ำ  แต่ดื่มน้ำเย็นจัดปรากฏว่าขีดความสามารถในการทำแบบทดสอบลดลงไปถึง 15 เปอร์เซ็นต์  จึงสรุปได้ว่าการดื่มน้ำเย็นจัดมากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการขับรถหรือการทำงานที่ต้องใช้สมอง  เพราะอุณหภูมิของน้ำดื่มเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสมอง...
    
              ฉะนั้น อากาศบ้านเราที่อุณภูมิที่ร้อนเพิ่มขึ้น  “การดื่มน้ำ”  จึงควรให้ความสำคัญและต้องใส่ใจเป็นพิเศษด้วย  รู้เท่าทุนสุขภาพแบบนี้กันแล้ว ก็อย่าลืมหันมาดูแลสุขภาพกันนะค่ะ เพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรัก.....

ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือแม่บ้าน...

ผัดมะเขือยาว..อาหารเพื่อสุขภาพ


เครื่องปรุง

      มะเขือยาว    2  ลูก
   
     ใบโหระพา    1  ช้อนโต๊ะ

     หมูสับ   2  ช้อนโต๊ะ

     น้ำมันพืช   2  ช้อนโต๊ะ

     ซีอิ๊วขาว    1  ช้อนโต๊ะ

     น้ำตาลทราย   1  ช้อนชา

     เต้าเจี้ยวขาวสำหรับปรุงรส

     กระเทียมสับ   1  ช้อนโต๊ะ
 
   
วิธีทำ...เริ่มต้นด้วยการนำมะเขือยาวมาหั่นให้เรียบร้อย  จากนั้นนำไปแช่ในน้ำเกลือ  พักไว้เพื่อไม่ให้มะเขือดำ  นำกระทะตั้งไฟพอร้อน  ใส่น้ำมันพืชลงไป  นำกระเทียมลงไปเจียวให้หอม  ใส่หมูสับลงไปผัดพอสุก  ใส่มะเขือยาวลงผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน  ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว  น้ำตาลทราย  และซีอิ้วขาว  ผัดต่อสักครู่เติมน้ำสุกหรือน้ำสะอาดลงไปประมาร  3-4  ช้อนโต๊ะ  เพื่อเพิ่มน้ำให้ขลุกขลิก  นำใบโหระพาลงไปแล้วปิดไฟ  ผัดต่ออีกนิดพอให้โหระพาสลด  เสร็จแล้วตักใส่จาน นำเสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ  ....
   

ผัดฟักทองใส่ไข่...อาหารเพื่อสุขภาพ




เครื่องปรุง
ฟักทองหั่นชิ้น   300  กรัม
กระเทียมสับ   1   ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่   2  ฟอง
น้ำตาลปี๊บ   2  ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา   1  ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย  1  ช้อนชา
น้ำมันพืช   2   ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า   3  ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ   เริ่มต้นด้วยการใส่น้ำมันพืชในกระทะพอร้อน  นำกระเทียมลงผัดพอหอม  จากนั้นใส่ฟักทองลงไปผัดรวมกัน  ผัดคลุกเคล้ากับกระเทียมประมาณ  1  นาที  แล้วใส่น้ำเปล่าพร้อมกับน้ำตาลปี๊บ  ปิดฝาอบไว้  10  นาที  หรือจนฟักทองสุก  จากนั้นเปิดฝาตอกไข่ลงไป  ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน  ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมันหอย  แค่ก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้แล้วค่ะ....