ทำอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรงและเป็นหนุ่มนานๆๆ

                   สำหรับวันนี้ ทำอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรง  มีเกร็ดความรู้  วิธีการที่จะให้หนุ่ม ๆ มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง  เป็นหนุ่มนาน ๆ ไม่ลงพุง  โดยวิธีการง่าย ๆ ที่ไม่ยุ่งยากอะไรเลย  เพียงแค่คุณผู้ชายทั้งหลายต้องมีความตั้งใจและตั้งมั่นที่จะทำจริง ๆ  ซึ่งในเพศชายจะมีฮอร์โมนที่ชื่อว่า “เทสโทสเทอโรน”  ซึ่งฮอร์โมนนี้เป็นส่วนสำคัญในการเผาผลาญไขมัน สร้างกล้ามเนื้อทำให้เปอร์เซ็นต์การเป็นมะเร็งน้อยลง สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น และที่สำคัญคือแก่ช้าลง แต่ถ้าไม่มีฮอร์โมนนี้อารมณ์ทางเพศก็จะลดน้อย เหนื่อยง่าย เก็บสะสมไขมันเยอะ กลายเป็นหนุ่มลงพุงไปในที่สุด รู้อย่างนี้อย่ารอช้ารีบมาเพิ่มฮอร์โมนกันเถอะ


        เริ่มต้นจากสิ่งแรกและเป็นสิ่งที่สำคัญกันก่อนก็คือ.....

รู้เท่าทันสุขภาพ..สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง

                  รู้เท่าทันสุขภาพ  ในวันนี้  ขอพูดถึง “มะเร็ง”  ซึ่งในสภาวการณ์ปัจจุบันคนไทยเราเป็นมะเร็ง เพิ่มปีละ 100,000 คน ตายชั่วโมงละ 6 คน สาเหตุใหญ่เกิดจากสารเคมีปนเปื้อนในอาหาร สิ่งที่คุกคามมนุษย์เราในปัจจุบันมีอยู่สองเรื่องใหญ่ๆ คือ ภัยพิบัติ และ อาหารที่มีสารพิษ เพราะวันนี้มนุษย์ใช้งานโลกอย่างหนัก โลกของเราจึงเจ็บป่วยเสียสมดุล จนเกิดภัยพิบัติถึงชีวิตและเกิดความเสียหายมากมาย และวันนี้ผู้คนก็เจ็บป่วยมากขึ้น โดยไม่ได้มีสาเหตุมาจากเชื้อโรคเช่นแต่ก่อน แต่เป็นโรคร้ายจากพฤติกรรมการกิน และการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปตามการพัฒนา โดยเฉพาะการป่วยด้วยโรคมะเร็งของคนไทยที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจเป็นปีละ 100,000 คนในปัจจุบัน และจากสถิติการตายล่าสุดของคนไทย (2552) มะเร็งมีอัตราการตายแซงหน้าการตายทุกประเภท ขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง เพิ่มเป็นจำนวน 56,058 คนต่อปี (เฉลี่ยตายวันละ 153 คน, ชั่วโมงละ 6 คน) ในจำนวนนี้เป็นมะเร็งตับสูงที่สุด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าสาเหตุใหญ่มาจากสารเคมีปนเปื้อนอาหาร

        มะเร็ง คือ เซลล์ที่เปลี่ยนสภาพไปเป็นเนื้อร้าย เติบโต และขยายตัวในหลอดเลือดและน้ำเหลือง กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย ซึ่งหากเป็นอวัยวะส่วนที่สำคัญ ก็จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็วโดยมีสารเคมีที่เรียกว่า คาร์ซิโนเจน เป็นตัวแปรสำคัญ โดย เซลล์มะเร็ง จะมีการแบ่งตัวขยายออกไปเรื่อยๆ

ผัดกะเพราทูน่า...อาหารเพื่อสุขภาพ

“ผัดกะเพราทูน่า”  อาหารเพื่อสุขภาพ อีกหนึ่งเมนูที่ให้ประโยชน์กับสุขภาพร่างกายของเรา ซึ่งปลาทูน่ามีแหล่งกำเนิดในทะเลน้ำลึก มีโปรตีนสูง โคเลสเตอรอลและไขมันต่ำ มีวิตามิน เกลือแร่ ไอโอดีน สังกะสี แคลเซียม อีกทั้งมี โอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมอง ช่วยในเรื่องความจำ ป้องกันโรคหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ จัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เหมาะสำหรับทุกเพศ

ทุกวัยค่ะ 

เครื่องปรุง...  

ปลาทูน่ากระป๋อง

·   กระเทียมสับ

·   พริกขี้หนูสับ

·   ถั่วฝักยาว , แครอท , ข้าวโพดอ่อน (หั่นชิ้นเล็กตามชอบค่ะ)

·   ใบกะเพรา

·    ซีอิ๊วขาว

·   ซอสหอยนางรม

·   น้ำตาลทรายแดง

·   น้ำมันพืชสำหรับผัด

                          เริ่มลงมือทำอาหารเพื่อสุขภาพกันดีกว่า...โดยเริ่มจากการตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชสำหรับผัด ลงไปเล็กน้อย ตามด้วยกระเทียมสับ พริกขี้หนูแดงสับ  ตามด้วยใส่ผักพวกถั่วฝักยาว แครอท หรือข้าวโพดอ่อน เพื่อเพิ่มวิตามิน และไฟเบอร์ค่ะ

แล้วใส่ปลาทูน่ากระป๋องลงไปเคล้าให้เข้ากันเบา ๆ  ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว  ซอสหอยนางรม  และน้ำตาลทรายแดง  ชิมรสชาติตามที่ชอบ  จากนั้นใส่ใบกะเพราลงไปเป็นลำดับสุดท้าย  แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ  พร้อมเสริฟกับข้าวสวยร้อน ๆ  แค่นี้ก็อิ่มอร่อยได้แล้วค่ะ..

                                                                                                                                                                                                                                 

ทำอย่างไรให้สุขภาพดีและแข็งแรง...

องค์ประกอบสู่สุขภาพที่ดีและแข็งแรง ได้แก่

1.    รับประทานอาหารให้มีความหลากหลาย รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่พอเหมาะเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน

2.    มีกิจกรรมและออกกำลังกายที่สมดุลกับอาหารที่รับประทาน และรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ อาหารที่รับประทานจะให้พลังงานแก่ร่างกายเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ หากไม่ทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน ก็จะทำให้อ้วนได้ เพราะพลังงานที่ไม่ได้ใช้จะถูกเก็บสะสมไว้ในร่างกาย

3.   รับประทานข้าว ผัก ผลไม้ให้มาก ข้าวกล้อง ผัก และผลไม้ จะมีใยอาหารซึ่งช่วยป้องกันโรค

4.    รับประทานอาหารที่มีไขมันในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเลือกรับประทานไขมันทั้งจากพืชและสัตว์

5.   รับประทานน้ำตาลให้น้อยลง การรับประทานน้ำตาลมากเกินไปอาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และอาจเป็นโรคเบาหวานได้

6.   รับประทานเกลือให้น้อยลง การรับประทานเกลือหรืออาหารเค็มจัด บ่อยๆ จะทำให้ความดันโลหิตสูงกว่าปกติ

7.   ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ 

รู้เท่าทันสุขภาพ...โรคต้อกระจก

              สวัสดีค่ะ...วันนี้ รู้เท่าทันสุขภาพ กับ โรคต้อกระจก  ซึ่งจะเป็นกันมากในผู้สูงอายุซึ่งเป็นกันมากในปัจจุบัน  โดยผู้สูงอายุจะมีอาการตามัวในผู้สูงอายุ ดูจะเป็นเรื่องปกติธรรมดา จนหลายๆ คนไม่ได้ให้ความใส่ใจเท่าที่ควร เพราะคิดว่า “ท่านแก่แล้ว หูตาก็ฝ้าฟางเป็นธรรมดา” แต่นั่นคุณกำลังมองข้ามความสำคัญบางอย่างไป ซึ่งไม่ควรนิ่งนอนใจ ถ้าคุณ หรือญาติผู้ใหญ่ของคุณบอกกับเป็นนัยๆ ว่า ทำไมช่วงนี้มองอะไรไม่ค่อยชัดเลย หรือเวลาให้มองอะไรมักจะมองไม่ค่อยเห็นเหมือนแต่ก่อน    ซึ่งอาการดังกล่าวข้างต้น เป็นสาเหตุอันดับหนึ่ง ที่จะเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่า ต้อกระจกอาจจะเริ่มปิดบังความสว่างในการมองเห็นของญาติผู้ใหญ่แล้วก็ได้ ทั้งนี้เพื่อให้เข้าใจ และรู้เท่าทันสุขภาพกับโรคต้อกระจก

กล้วยหอมทอดฟรุตสลัด..อาหารเพื่อสุขภาพเจ้าตัวน้อย

               อาหารเพื่อสุขภาพสำหรับเจ้าตัวน้อยวันนี้ขอแนะนำเมนูอาหารว่าง ๆ อร่อย ๆ ให้กับเจ้าตัวน้อย  “กล้วยหอมทอดฟรุตสลัด”   เป็นอาหารเพื่อสุขภาพอีกหนึ่งเมนูที่อยากจะนำให้ลองทำกันดูนะค่ะ  คุณค่าทางสารอาหารมีมากมายหลายอย่างที่เจ้าตัวน้อยของเราจะได้กันนะค่ะ  มาเตรียมส่วนผสมการทำกันดีกว่าค่ะ

ส่วนผสม
กล้วยหอม 6 ใบ
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายป่น 1/4 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมันพืชสำหรับทอด
น้ำตาลไอซิ่ง
ผลไม้ในน้ำเชื่อมหรือผลไม้สดตามชอบ

น้ำผึ้ง

ถั่วทองนมสด..อาหารเพื่อสุขภาพสำหรับเจ้าตัวน้อย

      เมื่อเราพูดถึง “ถั่วเหลือง” ซึงเป็นเมล็ดพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการเป็นแหล่งที่ดีของไขมันและโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ   ถั่วเหลืองมีโปรตีนสูง ถั่วเหลืองจึงเป็นแหล่งโปรตีนสำหรับผู้ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ เพราะถั่วเหลืองมีคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับโปรตีนจากสัตว์    ถ้าเราบริโภคถั่วเหลืองในปริมาณที่สูงพอ ร่างกายจะได้รับโปรตีนเพียงพอกับความต้องการได้   นอกจากถั่วเหลืองเป็นแหล่งไขมันและโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ในถั่วเหลืองยังอุดมไปด้วยสารอาหารอีกมากมาย  เช่น คาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินต่าง ๆ  และในเมล็ดถั่วเหลืองนั้นยังมี เลซิทิน อันเป็นสารบำรุงสมอง  เพิ่มความทรงจำ  ลดไขมัน และลดโคเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกด้วย...
      เมื่อเรารู้ถึงคุณประโยชน์ของถั่วเหลืองแบบนี้แล้วก็มีเมนูอาหารเพื่อสุขภาพเจ้าตัวน้อยมาฝากกัน  "ถั่วทองนมสด"  ทำกันแบบง่าย ๆ ส่วนผสมต่าง ๆ ก็ไม่ยุ่งยากอะไร  ว่าแล้วมาเตรียมส่วนผสมกันก่อนดีกว่า  ก็มี  ถั่วเหลือง  นมสด  เมื่อเตรียมส่วนผสมต่าง ๆ แล้วมาลงมือทำกันดีกว่าค่ะ....


วิธีทำ

         1. เลือกเมล็ดถั่วเหลืองที่เสียออก ล้างน้ำเพื่อทำความสะอาด แช่ถั่วค้างคืน นำไปต้มจนเปื่อย จากนั้นบดให้ละเอียด

         2. เทนมสดใส่หม้อ ตั้งไฟให้เดือดแล้วใส่ถั่วบดลงไป คนให้เข้ากัน ยกลง  เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ  พร้อมเสริฟให้เจ้าตัวน้อยของเราได้เลยค่ะ....

ทำอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรงกับการดื่มน้ำ

           ทำอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรง ในวันนี้เราจะพูดถึง “น้ำ”  ซึ่งในทุก ๆ วัน ร่างกายของเราจะต้องสูญเสียน้ำผ่านทางการหายใจและการขับถ่าย จึงเป็นสิ่งที่จําเป็นมากที่จะต้องรับน้ำเข้าไป เพื่อทดแทนส่วนที่เสียไป และโดยปกติเราจะเสียน้ำจากการปัสสาวะเฉลี่ยวันละประมาณ 1.5 ลิตร และอีกเกือบถึง 1 ลิตรสำหรับการหายใจและเหงื่อ ถ้าคุณสาวๆดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร (ประมาณ 8 แก้ว) ก็จะช่วยทดแทนการสูญเสียน้ำในส่วนนี้ได้ แต่สําหรับปริมาณน้ำที่ควรดื่มให้ได้ภายใน 1 วันเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเองแล้ว ถ้าเป็นหนุ่ม ๆ ควรดื่มให้ได้วันละ 3 ลิตร (ประมาณ 13 แก้ว) ส่วนสาว ๆ ควรดื่มวันละ 2.2 ลิตร (ประมาณ 9 แก้ว)  สําหรับสาว ๆ ที่ชอบกำลังกาย จะต้องดื่มน้ำในปริมาณที่เยอะกว่าคนปกติทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของกิจกรรมที่ทําด้วย ถ้าคุณออกกําลังกายในช่วงสั้น ๆ ก็ควรจะดื่มน้ำเพิ่มเข้าไปครั้งละ 1-2 แก้วหลังจากออกกําลังกายแล้ว แต่ถ้าเป็นช่วงยาว ๆ ละก็เพิ่มขึ้นอีกสัก 2-3 แก้วก็ น่าจะเพียงพอแล้ว

- ตื่นนอนตอนเช้า 1 แก้ว (400 ซี.ซี.) เพราะเป็นช่วงที่มีความเข้มข้นของเลือดสูง เลือดจะมีลักษณะขาดน้ำ

- ตอนสายๆ 2 แก้ว (เวลาประมาณ 9 โมงถึง 10 โมงเช้า) ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีของเสียเกิดขึ้น เพราะร่างกายได้ทํางานไประยะหนึ่งแล้ว ฉะนั้นจึงควรดื่มน้ำเพื่อมาชําระของเสียเหล่านั้นออกไป

- ตอนบ่าย ๆ 3 แก้ว (เวลาประมาณบ่ายโมงถึงบ่ายสอง)

- ตอนเย็น 3 แก้ว (เวลาประมาณ 1 ทุ่มถึง 2 ทุ่ม)

- ก่อนนอนให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งตกค้างในลําไส้และกระเพาะอาหาร และยิ่งถ้าเป็นน้ำอุ่นด้วยแล้วจะยิ่งช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น

              ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายของเราตามหลักการในการดื่มน้ำเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพร่างกายของเรา  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร  เพียงแค่เราค่อย ๆ เริ่มทำและทุกอย่างจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองค่ะ.....

รู้เท่าทันสุขภาพ...กับ 5 โรคของผู้หญิงที่ป้องกันได้

                  

                      ปัจจุบันนี้ผู้หญิงเราทำงานแข่งกับเวลามากขึ้นจนบางครั้งลืมที่จะหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเอง  จนทำให้เราไม่สบายและมีโรคประจำตัวอยู่บ่อย ๆ เนื่องจากฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าผู้ชาย แต่หากเรารู้จักอาการเริ่มต้นของโรคต่าง ๆ ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ลุกลามถึงขั้นรุนแรงและสามารถรักษาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ รู้เท่าทันสุขภาพ จึงมีเคล็ดลับสุขภาพดีๆ ที่เกี่ยวกับ 5 โรคที่มักพบในผู้หญิงรวมทั้งวิธีการตรวจรักษามาบอกกล่าวให้ทราบกันค่ะ

      
              รู้เท่าทันสุขภาพกับโรคแรก  คือ “โรคกระดูกพรุน” โดยเฉพาะผู้หญิงที่ประจำเดือนหมดก่อนอายุ 45 ปี ประจำเดือนไม่มีนานเกิน 1 ปี (ยกเว้นตั้งครรภ์) เคยผ่าตัดรังไข่ก่อนอายุ 50 ปี เคยกระดูกหักจากอุบัติเหตุแม้เพียงเล็กน้อย มีประวัติกระดูกหักในครอบครัว ทานยาสเตียรอยด์นานกว่า 3 เดือน โรคปวดตามไขข้อและโรคปวดบวมอักเสบ ผอมแห้ง น้ำหนักน้อย ส่วนสูงลดลงมากกว่า 3 ซม. แต่การตรวจเช็กสุขภาพกระดูกทุก 1 ปี จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนได้ด้วยเครื่อง Bone Densitometry ตรวจความหนาแน่นของกระดูก โดยเฉพาะผู้หญิงวัยทองที่มีความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน

รู้เท่าทันสุขภาพ..กับการดื่มชา

          รู้เท่าทันสุขภาพ  ในวันนี้จะพูดถึงการดื่มชา  ซึ่งชา เป็นเครื่องดื่มที่มีมาช้านานแล้ว  นอกเหนือจากการเป็นเครื่องดื่มแก้กระหาย แก้ง่วงแล้ว ยังสามารถช่วยต้านโรคได้อีกด้วย เช่น ต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในเซลล์ของร่างกาย ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อจุลินทร์ในลำไส้ ป้องกันตับจากสารพิษและโรคอื่นๆ อีกมากมายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ เพราะชามีองค์ประกอบสำคัญ ที่เรียกว่า "แทนนิน" หรือ "ทีโพลีฟีนอล" (Tea Polyphenols) ซึ่งเป็นสารที่สามารถพบมากในพืชเกือบทุกชนิด แต่อาจมีโครงสร้างทางเคมีแตกต่างกันออกไป   ซึ่งสาร "แทนนิน" ในใบชาสดหรือชาเขียว ที่ฤทธิ์ทางยาที่สำคัญ ได้แก่ สารกลุ่ม "คาเทคซินส์" (Catechins) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านโรคภัยหลายประเภท หากดื่มเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม สารสำคัญในใบชามักสลายตัวได้ง่ายและรวดเร็ว เมื่อสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศและความร้อน

สิ่งที่ควรปฏิบัติเกี่ยวกับการดื่มชา

 1.สำหรับผู้ที่นิยมจิบชาร้อน สารสำคัญที่เป็นประโยชน์อย่าง "คาเทคซินส์" จะถูกความร้อนทำลายไปเกือบทั้งหมด คงเหลืออยู่เพียงความหอมและรศชาติของชาเท่านั้น แต่หากต้องการได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ยังคงอยากจิบชาร้อน ขอแนะนำให้หันไปดื่มน้ำชาเข้มข้น แบบเดียวกับที่คนจีนแต้จิ๋วนิยมดื่มชาจีนรสเข้มข้นในถ้วยชาใบจิ๋ว คล้ายกับการดื่มกาแฟเอ็กซ์เพรสโซ่ เพราะความเข้มข้นของใบชา จะทำให้มีสารคาเทคซินส์เข้มข้นตามไปด้วย และแม้ว่าจะสลายจากความร้อนไปบางส่วน แต่จะยังเหลือบางส่วนไว้อยู่ พอที่จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

รู้เท่าทันสุขภาพ..โดยการตรวจเช็คผิวหน้าตนเอง...

                    รู้เท่าทันสุขภาพด้วยการตรวจเช็คสุขภาพของตนเองจากการเช็คผิวหน้าของเราเอง  ซึ่งคนจีนมักมีความเชื่อกันว่าสุขภาพผิวหน้าสามารถบ่งบอกถึงความปั่นป่วนของระบบอวัยวะภายใน ร่างกายได้ โดยไล่ตั้งแต่ หน้าผากถึงหน้าอกเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้รู้เท่าทันสุขภาพจึงอยากจะขอแนะนำวิธีการตรวจสุขภาพจากการเช็คผิวหน้า

การตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง

1.บริเวณหน้าผาก หากผิวหน้า แห้งและเกิดสิวอักเสบนั้นแสดงว่าปัจจุบันระบบย่อยอาหารหรือกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา แก้ไขเบื้องต้นโดยการดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย หมั่นออกกำลังกาย และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

2.หากเกิดสิวอุดตันบริเวณคิ้วนั้นแสดงว่าการทำงานของตับมีปัญหา ซึ่งอาจเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ งดรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

เต้าหู้ตุ่นเห็ด..อาหารเพื่อสุขภาพ

                 อาหารเพื่อสุขภาพ  เมนูนี้  “เต้าหู้ตุ่นเห็ดหอม”  ซึ่ง เต้าหู้สามารถนำมาทำอาหารได้อร่อยหลาหลายกอย่าง แถมมีประโยชน์ ต่อร่างกายมากมายมหาศาล เพราะทำมาจากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นพืช ที่มีคุณสมบัติในเรื่องการช่วยรักษา และลดระดับความดันในเส้นเลือด รักษาระดับน้ำตาลในเลือด ปกป้องหัวใจ ทำให้ประจำเดือนของสตรีเป็นปกติ ทำให้กระดูกแข็งแรง มีคอเรสเตอรอลต่ำ และมีคุณสมบัติในการต่อต้านมะเร็ง มีรายงานว่า ผู้หญิงในประเทศ แถบซีกโลกตะวันออก มีอัตราการเป็นมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก น้อยกว่าผู้หญิงในอเมริกา เพราะกินอาหารจากถั่วเหลือง มากกว่า 20 - 50 เท่า ผู้หญิงที่กินอาหารจากถั่วเหลือง มีอัตราการเป็นมะเร็ง น้อยกว่าคนที่ไม่ได้กินถึงร้อยละ 50  เมื่อรู้ถึงประโยชน์แบบนี้แล้วมาทำอาหารเพื่อสุขภาพเมนูนี้กันดีกว่าค่ะ

ส่วนผสม
	เต้าหู้อ่อน (เต้าหู้กระดาน) 1 แผ่น หรือ เต้าหู้หลอด 1 หลอด นำมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
	สาหร่ายทะเลย่าง 1 /2 แผ่น
	เห็ดหอมแช่น้ำไว้จนนุ่ม 5 ดอก
	พริกไทยป่น 1/ 2 ช้อนชา
	น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
	ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
	น้ำแช่เห็ดหอม 2 ช้อนโต๊ะ
	น้ำซุปผัก 4 ถ้วย

วิธีทำ
-	ใส่น้ำซุป และน้ำแช่เห็ดหอมลงในหม้อ นำไปตั้งไฟพอเดือด
-	ใส่เต้าหู้ เห็ดหอม น้ำตาล ซีอิ้วขาว ตุ๋นไฟอ่อนๆ ประมาณ 30 นาที
-	ฉีกสาหร่ายทะเลใส่ ยกลง ตักใส่ถ้วย โรยพริกไทยป่น
-	ทำน้ำซุปผัก โดยใช้ น้ำ 10 ถ้วย ต้มกับกะหล่ำปลี 1 หัวย่อมๆ หอมใหญ่ 1 หัวโตๆ หัวไชเท้าและแครอทหั่นชิ้นโต ๆอย่างละ 1 หัว ใส่ต้นคื่นช่ายลงไปสัก 2 - 3 ต้น กระเทียม รากผักชี และพริกไทยเม็ดบุบ เคี่ยวไปอ่อนๆ สัก 45 - 60 นาที แล้วจึงกรอง เอามาไว้ใช้ทำน้ำซุป

อาหารชีวจิตกับอบวุ้นเส้นเห็ดโคน

                “อบวุ้นเส้นเห็ดโคน”  อาหารชีวจิต เพื่อสุขภาพ สำหรับทุกคนที่รักษาสุขภาพ และเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนัก ทำง่าย ๆ แต่คุณค่าทางสารอาหารมากมายส่วนผสมต่าง ๆ ก็ไม่ยุ่งยากอะไร  มาเตรียมส่วนผสมอาหารชีวจิตเมนู “อบวุ้นเส้นเห็ดโคน”  กันดีกว่า...

ส่วนผสม

วุ้นเส้น 2 กำเล็ก แช่น้ำทิ้งไว้

เห็ดโคนล้างให้สะอาด 2 ถ้วย

กระเทียมเม็ดบุบพอแตก 10 เม็ด

รากผักชีทุบพอแตก 3-4 ราก

ขิงแก่หั่นเป็นแว่น 5-6 แว่น

ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำซุปผัก หรือน้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ 

 ส่วนผสมน้ำจิ้ม

น้ำส้ม  3 ช้อนโต๊ะ

พริกขี้หนูเม็ดใหญ่สีแดง 

กระเทียม

เริ่มลงมือทำกันเลย   โดยเริ่มจากผัดกระเทียมรากผักชี และขิง ด้วยน้ำมันงาจนหอม ใส่เห็ดโคนลงไปผัดแล้วใส่วุ้นเส้น ซีอิ๊วขาว น้ำซุป คนให้เข้ากัน เอาฝาปิดใช้ไฟอ่อน อบไว้สัก 5 นาที เปิดฝา  กลับวุ้นเส้น บนไว้ล่าง ทิ้งไว้อีก 5 นาที ดับไฟ ก่อนเสิร์ฟโรยด้วยงาขาวคั่ว  ต่อไปมาลงมือทำน้ำจิ้มกันดีกว่า  โดยนำกระเทียม  พริกขี้หนูเม็ดใหญ่สีแดงโขลกเข้ากันพอแหลก  ใส่น้ำส้มลงไป  คนให้เข้ากัน แล้วเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มได้เลยค่ะ....

ต้มยำเห็ด..อาหารชีวจิตต้านมะเร็ง..

                สวัสดีค่ะ  อาหารชีวจิต  เพื่อสุขภาพวันนี้มีเมนูอร่อย ๆ มาแนะนำและลองให้ทำกันดูนะค่ะ  “ต้มยำเห็ด”  ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ชอบดูแล  สุขภาพ  และมีผลวิจัยล่าสุดจากมหาบัณฑิต สาขาพิษวิทยาทางอาหารและโภชนาการ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า 22  ตำรับอาหารไทยช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงมะเร็งได้ และ  “ต้มยำเห็ด”  ก็เป็น 1 ในเมนูอาหารที่สามารถต้านมะเร็งได้  ซึ่งเป็นเมนูง่าย ๆ ทำไม่ยากเลยค่ะ มาดูเครื่องปรุงส่วนผสมกันเลยค่ะ  

1. ข่าหั่นเป็นแว่นพอประมาณ

2. ตะไคร้  ใบมะกรูด  หอมแดง ใบโหระพา พอประมาณ

3. เห็ดฟางหรือเห็ดต่าง ๆ ตามใจชอบ  พอประมาณ

4. ซีอิ้วขาว  น้ำตาลทรายแดง  น้ำมะนาว  พอประมาณ

5. พริกขี้หนูสวนทุบตามใจชอบ

         เมื่อเตรียมเครื่องปรุงเรียบร้อยแล้วต่อไปมาเริ่มลงมือทำ อาหารชีวจิต เพื่อสุขภาพเมนูนี้กันดีกว่า  โดยเริ่มจากการต้มน้ำให้เดือด หลังจากนั้นก็ให้ใส่ข่า ใส่ตะไคร้ ใส่ใบมะกรูด และก็ใส่หอมแดงทุบลงไปคะ เพื่อน้ำเดือดได้ที่แล้ว ก็ให้ใส่เห็ดฟางเพิ่มลงไปได้เลย หลังจากนั้นก็รอให้เดือดอีกสักครู่ พอเดือดแล้วก็สามารถที่จะปรุงรส ได้ตามใจชอบได้เลย และก็สามารถที่จะเพิ่มความหอม ได้โดยการใส่ใบโหระพา เพิ่มลงไปก็ได้เช่นกัน เพียงแค่นี้เมนูต้มยำเห็ดฟางของเราก็เสร็จเรียบร้อยแล้วคะ เสร็จแล้วก็ตักเสริฟพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยคะ  หรือจะกินเป็นกับแกล้มก็ได้นะค่ะ....

อาหารชีวจิต...ยำหัวปลี...

  

    “ยำหัวปลีหัวปลี”   เมนู อาหารชีวจิต เพื่อสุขภาพที่ทำกันแบบง่ายแต่มีคุณค่าทางสารอาหารมากมายเลยทีเดียว  เพราะหัวปลีจะมีรสฝาดมันจึง ช่วยบำรุงน้ำนม ป้องกันโรคลำไส้ ลดน้ำตาลในเลือด และช่วยสมานแผล แต่ถ้ากินมากเกินไปจะทำให้ฝืดคอ และท้องเฟ้อ....     

ส่วนผสม

หัวปลีสด 1 หัว (แนะนำให้ใช้หัวปลีกล้วยน้ำว้า เพราะไม่มีรสฝาด)
กุ้งสดลวก 10 ตัว
กุ้งแห้งทอด 1/2 ถ้วย
ถั่วลิสงโขลกละเอียด 1 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำเต้าหู้ 1/2 ถ้วย
น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำพริกเผา 4 ช้อนโต๊ะ
ผักชีสำหรับโรยหน้าวิธีทำ

วิธีการทำ.....เริ่มจากการนำหัวปลีไปล้างให้สะอาด ผ่าครึ่งแล้วนำไป ปิ้งบนไฟจนเปลือกข้างนอกไหม้นิดหน่อย พักไว้ให้เย็น
ลอกเปลือกหัวปลีที่ไหม้ออก ซอยตามขวางบางๆ    ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำเต้าหู้ น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว และน้ำพริกเผาให้เข้ากันเพื่อทำเป็นน้ำยำ   คลุกเคล้ากุ้งลวกในน้ำยำ เพื่อให้ซึมเข้าไปในตัวกุ้ง  แล้วราดน้ำยำลงไปคลุกเคล้ากับหัวปลี กุ้งแห้ง ถั่วลิสง เมื่อเข้ากันดีแล้ว ตักใส่จานโรยหน้าด้วยผักชี  แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ  พร้อมเสริฟกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือจะกินเป็นกับแกล้มก็ได้นะค่ะ.......